ทางบริษัท พีดีเอส ฟู๊ดส์ จำกัดฯ มีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส ซื่อสัตย์ และ มีจริยธรรม โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดทำนโยบาย ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความโปร่งใสในองค์กร และเพื่อให้องค์กรสามารถดำเนินธุรกิจได้ อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน เพื่อสร้างความไว้วางใจให้แก่กับลูกค้า คู่ค้า และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมถึงสร้างวัฒนธรรมองค์กร ให้ยึดมั่นถือมั่นในความโปร่งใส
การสร้างวัฒนธรรมที่เน้นความโปร่งใส จะช่วยให้พนักงานทุกคนในองค์กรปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งมีมาตรฐาน และ จริยธรรมในทิศทางเดียวกันและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การฝึกอบรม และการให้ความ รู้เกี่ยวกับนโยบาย และ แนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง จะช่วยให้ พนักงานสามารถ ปฏิบัติตาม นโยบายได้อย่างถูกต้อง และมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การส่งเสริมให้ พนักงาน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียรายงานเหตุการณ์ที่สงสัยว่าเป็นการทุจริต และ สนับสนุนการสอบสวนอย่างเป็น ธรรม จะช่วยเสริมสร้างสภาพแวดล้อม การทำงานที่ปลอดภัย และ น่าไว้วางใจสำหรับทุกคนในองค์กร
หลักการ
- ทุกกระบวนการทำงานต้องมีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ เพื่อป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน
- กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทฯ ต้องปฏิบัติตามกฎหมายและนโยบายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน อย่างเคร่งครัด
- ส่งเสริมให้กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานมีส่วนร่วมในการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน และรายงานแจ้งเบาะแส พร้อมทั้งส่งเสริมให้มีวัฒนธรรมองค์กรที่ไม่ยอมรับการทุจริตคอร์รัปชันในทุกรูปแบบ
- บริษัทฯ จัดให้มีระบบการควบคุมภายในที่มีประสิทธิภาพ เพื่อลดความเสี่ยงจากการทุจริตคอร์รัปชัน
- บริษัทฯ จัดให้มีการสอบทานการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามนโยบายการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน เป็นประจำอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
คำนิยาม
- สินบน หมายถึง ทรัพย์สินหรือผลประโยชน์อื่นใดที่เสนอว่าจะให้ สัญญาว่าจะให้ มอบให้ การยอมรับ การให้ หรือการร้องขอสิ่งใดสิ่งหนึ่ง อันส่งผลต่อการตัดสินอย่างใดอย่างหนึ่งในลักษณะจูงใจให้กระทำการ หรือไม่กระทำการที่ขัดต่อหน้าที่ความรับผิดชอบ
- คอร์รัปชัน หมายถึง การใช้อำนาจสาธารณะที่มิชอบเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน หรือการให้สินบน และความประพฤติทั้งหลายของบุคคลซึ่งได้รับมอบหมายหน้าที่ และความรับผิดชอบในภาครัฐหรือเอกชน ประพฤติที่ฝ่าฝืนหน้าที่ของตนโดยไม่สมควรกับตำแหน่งหน้าที่ของตนในฐานะเจ้าพนักงานแห่งรัฐ เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานเอกชน ตัวแทนหรือฐานะความสัมพันธ์อื่นๆ โดยมุ่งประสงค์ให้ได้รับประโยชน์ใดๆ โดยมิชอบสำหรับตนเองหรือผู้อื่น
- เจ้าหน้าที่รัฐ หมายถึง ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ข้าราชการ หรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ซึ่งมีตำแหน่ง หรือเงินเดือนประจำ พนักงานหรือบุคคลผู้ปฏิบัติงานในรัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐ ผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่นซึ่งมิใช่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เจ้าพนักงานตามกฎหมายว่าด้วยลักษณะปกครองท้องที่
และให้ความหมายรวมถึงกรรมการ อนุกรรมการลูกจ้างของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐ และบุคคล หรือคณะบุคคลซึ่งใช้อำนาจหรือได้รับมอบให้ใช้อำนาจทางการปรกครองของรัฐในการดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งตามกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้งขึ้นในระบบราชการรัฐวิสาหกิจหรือกิจการอื่นๆของรัฐ
- คู่ค้า หมายถึง ผู้ขายสินค้าหรือผู้บริการ ผู้รับจ้าง ผู้ให้สัญญา และ/หรือผู้ให้บริการ ทั้งที่เป็นนิติบุคคล และบุคคลธรรมดา แก่บริษัทฯ
- ของขวัญ หมายถึง สิ่งของใดๆ ที่มีมูลค่าทางการเงิน ซึ่งซี่งรวมถึงทรัพย์สิน สิ่งที่ใช้ทดแทนเงินสด สิ่งที่ใช้แลกเปลี่ยนเป็นสินค้า หรือบริการ
- การให้ของขวัญ หมายถึง การให้ของ ของที่ระลึก หรือทรัพย์สินอื่นใด ตามขนบธรรมเนียมประเพณีนิยม หรือประเพณีท้องถิ่น และความหมายรวมถึงโอกาสในการแสดงความยินดี การแสดงความขอบคุณ การแสดงความเสียใจ หรือการแสดงออกถึงมิตรไมตรีและความสัมพันธ์อันดีที่มีต่อกัน
- การเลี้ยงรับรองและการบริการต้อนรับ หมายถึง การใช้จ่ายสำหรับการเลี้ยงรับรองทางธุรกิจ อาทิ การเลี้ยงรับรองเป็นอาหารและเครื่องดื่ม การเลี้ยงรับรองในรูปแบบการกีฬาและการใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการปฏิบัติทางธุรกิจ หรือเป็นจารีตทางการค้า
- การสนับสนุน หมายถึง เงินหรือทรัพย์สินของบริษัทฯ ที่บริษัทฯสนับสนุนให้วัตถุประสงค์ของโครงการประสบผลสำเร็จ ตลอดจนเพื่อธุรกิจ ภาพลักษณ์ที่ดีและชื่อเสียงของบริษัทฯ โดยมิได้เป็นไปเพื่อคาดหวังผลประโยชน์ ที่อาจพิจารณาได้ว่าเป็นการทุจริตและคอร์รัปชัน
- การบริจาค หมายถึง เงินหรือทรัพย์สินที่บริษัทฯ บริจาคเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสาธารณะ โดยมิได้เป็นไปเพื่อคาดหวังผลประโยชน์ ที่อาจพิจารณาได้ว่าเป็นการทุจริตและคอร์รัปชัน
- ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอก หมายถึง บุคคล กลุ่มคน หรือหน่วยงานที่มีอิทธิพลต่อกระบวนการ การตัดสินใจของบริษัทฯ ซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อเป้าหมาย และความสำเร็จของบริษัทฯได้ ผู้มีส่วนได้เสียยังหมายถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบจากกระบวนการตัดสินใจของบริษัทฯ และผู้ที่มีความสนใจต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯด้วย
- ตัวแทนหรือผู้จัดจำหน่าย ตัวแทน หมายถึง ผู้มีอำนาจตามกฎหมายในการกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งในนามบุคคลอื่นเช่นบริษัทฯ มีนโยบายแต่งตั้งตัวแทนอย่างเป็นทางการ
- ค่าอำนวยความสะดวก หมายถึง ค่าใช้จ่ายจำนวนเล็กน้อยที่จ่ายให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐอย่างไม่เป็นทางการ และเป็นการให้เพียงเพื่อให้มั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐจะดำเนินการตามกระบวนการ หรือเป็นการกระตุ้นให้ดำเนินการรวดเร็วขึ้น โดยกระบวนการนั้นไม่ต้องอาศัยดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่รัฐ
หน้าที่และความรับผิดชอบ
- คณะกรรมการบริษัทฯ มีหน้าที่ และความรับผิดชอบในการกำกับดูแลการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันของบริษัทฯ ในภาพรวม ตลอดจนกำหนดและพิจารณาอนุมัตินโยบายและแนวทางปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับการต่อต้าน การทุจริตคอร์รัปชัน รวมทั้งให้ความสำคัญ และสนับสนุนให้มีระบบการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้มั่นใจว่าฝ่ายจัดการตระหนักถึงความสำคัญ และปลูกฝังจนเป็น วัฒนธรรมองค์กร
- คณะกรรมการตรวจสอบมีหน้าที่และความรับผิดชอบในการกำกับดูแลควบคุมระบบภายใน ระบบบัญชีและรายงานทางการเงิน รวมถึงกระบวนการอื่นใดที่เกี่ยวข้องตามนโยบายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน แนวปฏิบัติและข้อกฏหมายกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการต่างๆ มีระบบควบคุมภายในที่มีประสิทธิภาพ ที่เพียงพอ เหมาะสม สามารถป้องกันความเสี่ยงในการเกิดการทุจริตคอร์รัปชัน (ถ้ามีกรรมการตรวจสอบ)
- หน่วยงานตรวจสอบภายในมีหน้าที่และความรับผิดชอบ ในการตรวจสอบและสอบทานระบบควบคุมภายในของบริษัทฯให้เป็นไปตามนโยบายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันและแนวทางปฏิบัติ รวมถึงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการตรวจสอบการร้องเรียนที่เกี่ยวกับการทุจริตคอร์รัปชัน เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทฯ มีระบบควบคุม ภายในที่มีประสิทธิภาพ เพียงพอ และเหมาะสม สามารถป้องกันความเสี่ยงในการเกิดการทุจริตคอร์รัปชันได้ รวมถึงรายงานผลการตรวจสอบต่อผู้บริหารระดับสูง และคณะกรรมการตรวจสอบ (ถ้ามีหน่วยงานตรวจสอบ ภายใน)
- ผู้บริหารมีหน้าที่และความรับผิดชอบในการสื่อสารนโยบายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันและนำไปปฏิบัติ รวมถึงจัดให้มีระบบควบคุมภายใน ในแต่ละกระบวนการทำงาน เพื่อป้องกันความเสี่ยงการทุจริตคอร์รัปชัน จัดให้มีการฝึกอบรมและให้ความรู้เกี่ยวกับนโยบายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันและแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง แก่บุคลากรของบริษัทฯในทุกระดับเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจ สามารถนำนโยบายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน ไปดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงทบทวนนโยบายต่อต้านคอร์รัปชัน และ แนวปฏิบัติให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของ ธุรกิจ หลักเกณฑ์ และข้อกฎหมาย
หลักปฏิบัติในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันตามนโยบายการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน
- ของบริษัทฯยอมรับการทุจริตคอร์รัปชันทุกรูปแบบ ทั้งทางตรงและทางอ้อม ไม่ว่าจะเป็นการให้ / รับ เงินสิ่งของ ของขวัญ การเลี้ยงรับรอง การบริจาค การสนับสนุนหน่วยงานของรัฐ การช่วยเหลือทางการเมือง และผลประโยชน์อื่นกำหนดให้กรรมการ ผู้บริหารและพนักงานของบริษัทฯทุกระดับ ปฏิบัติตามนโยบายต่อต้านคอร์รัปชันและห้ามมิให้กรรมการผู้บริหาร และพนักงานใด เพื่อแสวงหาผลประโยชน์จากบุคคลที่ทำธุรกิจกับบริษัทฯ
- บริษัทฯ กำหนดให้ทุกฝ่ายงานมีมาตรการในการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันและแนวปฏิบัติรวมถึงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง มีการปรับปรุง ทบทวน แก้ไขระบบและมาตรการต่างๆ ให้มีความสอดคล้องต่อการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจ รวมทั้งมีการประเมินความเสี่ยงการทุจริตคอร์รัปชันเป็นระยะเพื่อหาวิธีป้องกันและแก้ไขอย่างเหมาะสม
- กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานบริษัทฯต้องไม่ละเลยหรือเพิกเฉย เมื่อพบเห็นการกระทำที่เข้าข่ายการทุจริตคอร์รัปชันที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ โดยแจ้งให้ผู้บังคับบัญชา หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องรับทราบ ทั้งนี้หากมีข้อสงสัยหรือข้อซักถามเกี่ยวกับนโยบายต่อต้านคอร์รัปชัน ให้ปรึกษาผู้บังคับบัญชาหรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง
- บริษัทฯกำหนดให้มีช่องทางในการแจ้งเบาะแส กรณีพบเห็นการกระทำที่เข้าข่ายการทุจริตคอร์รัปชัน ที่เกี่ยวข้อง กับบริษัทฯทั้งจากพนักงานภายในและจากบุคคลภายนอก โดยบริษัทฯจะให้ความเป็นธรรม และคุ้มครองสิทธิของผู้ให้ข้อมูล และ/หรือพนักงานที่ปฏิเสธ และ/หรือแจ้งเรื่องการทุจริตคอร์รัปชันที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ ทั้งด้านหน้าที่การงาน การลงโทษ หรือการดำเนินการใดๆ ที่จะก่อให้เกิดผลร้ายต่อพนักงาน
- บริษัทฯ มีนโยบายที่จะไม่ลดตำแหน่ง ลงโทษ หรือให้ผลทางลบต่อบุคลากรภายในที่ปฏิเสธการให้สินบน แม้ว่าการกระทำนั้นจะทำให้บริษัทฯเสียโอกาสทางธุรกิจก็ตาม
- บริษัทฯกำหนดให้มีการสื่อสารนโยบายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน ผ่านช่องทางการสื่อสารของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง อาทิจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ เว็บไซต์บริษัทฯ บอร์ดประกาศเป็นต้น รวมถึงจัดให้มีการอบรมเกี่ยวกับการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันให้กับกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทฯ
- บริษัทฯให้ความสำคัญในการเผยแพร่ ส่งเสริมความรู้ และความเข้าใจกับบุคคลอื่นที่ต้องปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ เช่นคู่ค้า ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอก รวมถึงตัวแทน และ/หรือผู้จัดจำหน่ายเพื่อนำไปสู่การสร้างจิตสำนึกที่ดี
- เพื่อสร้างบรรทัดฐานที่ดีในการดำเนินธุรกิจ บริษัทฯได้กำหนดนโยบาย งดรับของขวัญ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ เทศกาลตรุษจีน เทศกาลสงกรานต์ และโอกาสอื่นๆ รวมถึงไม่มีนโยบายจ่ายเงินค่าอำนวยความสะดวกในรูปแบบใดๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อมเพื่อแลกกับการอำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจ
เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการปฏิบัติงานตามนโยบายการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน และป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดการทุจริตคอร์รัปชัน กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทฯ ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวังในเรื่องต่อไปนี้
แนวปฏิบัติการให้ของขวัญ
กรรมการ ผู้บริหารและพนักงาน สามารถให้ของขวัญ ของที่ระลึกหรือประโยชน์อื่นใดแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้ โดยต้องเข้าเงื่อนไขดังต่อไปนี้
- การให้ตามประเพณีที่ได้รับการยอมรับโดยสังคมและต้องไม่ขัดต่อกฎหมายเช่น สำหรับประเทศไทยมูลค่าของขวัญต้องไม่เกิน 3,000 บาท ต่อคน ต่อโอกาส ตามประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
- ของขวัญต้องไม่เป็นเงินสดหรือมีค่าเทียบเท่าเงินสด เช่น บัตรกำนัลหรือบัตรของขวัญ
- ของขวัญหรือของที่ระลึกจะต้องเป็นสินค้าที่ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของบริษัทฯ เช่น สินค้าที่ใช้เป็นสื่อประชาสัมพันธ์ของบริษัทฯ สินค้าโครงการหลวง โครงการในพระราชดำริ สินค้าชุมชน หรือสินค้าที่สนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืน
- การให้ของขวัญต้องเป็นการให้ในนามของบริษัทฯเท่านั้น ไม่ใช่ในนามของกรรมการ ผู้บริหาร หรือ พนักงานของบริษัทฯ
- การให้ของขวัญต้องเหมาะสมกับบริษัทฯมีมูลค่าที่เหมาะสม และถูกต้องตามสถานการณ์ เช่นการให้ของขวัญในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทฯ การเฉลิมฉลองครบรอบของบริษัทฯ และในกรณีที่อยู่ระหว่างการประกวดราคา ควรงดการให้ของขวัญกับเจ้าหน้าที่รัฐ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
- การให้ของขวัญต้องไม่มีเจตนาร้าย หรือเป็นการกระทำที่ครอบงำ ชักนำ หรือตอบแทนบุคคลใดเพื่อเข้าไปเกี่ยวข้อง หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งความได้เปรียบผ่านการกระทำที่ไม่เหมาะสม หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์
- ไม่ให้ของขวัญ ของที่ระลึก ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใดแก่คู่สมรส บุตร หรือผู้ที่เกี่ยวข้องของเจ้าหน้าที่รัฐ ลูกค้า คู่ค้าหรือบุคคลที่ติดต่อด้วย เนื่องจากโดยพฤติการณ์อาจถือว่าเป็นการรับแทน
- การให้ของขวัญต้องได้รับการอนุมัติเบิกจ่าย และได้รับอนุมัติจากผู้มีอำนาจอนุมัติของบริษัทฯเท่านั้น
แนวปฏิบัติการรับของขวัญ
บริษัทฯประกาศนโยบายการงดรับของขวัญในช่วงเทศการปีใหม่ เทศกาลตรุษจีน เทศกาลสงกรานต์ และโอกาสอื่นๆ เพื่อสร้างบรรทัดฐานที่ดีในการดำเนินธุรกิจ กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทฯต้องชี้แจงให้คู่ค้า ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมถึงตัวแทน และ/หรือผู้จัดจำหน่ายให้ทราบถึงนโยบายการงดรับของขวัญ และขอความร่วมมือในการปฏิบัติตามอย่างต่อเนื่อง
- กำหนดให้กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทฯงดรับสิ่งของหรือประโยชน์อื่นใดจากคู่ค้า ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอกรวมถึงตัวแทน และ/หรือผู้จัดจำหน่าย หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัทฯ
- กรณีที่จำเป็นต้องรับสิ่งของ หรือประโยชน์อื่นใดโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ เช่น คู่ค้า ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอก รวมถึงตัวแทนและ/หรือผู้จัดจำหน่าย หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัทฯ ไม่ทราบถึงนโยบายงดรับของขวัญ และนำสิ่งของมามอบให้ ทำให้กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถปฏิเสธได้เพื่อรักษาสัมพันธภาพที่ดีกับบุคคล หรือองค์กรนั้นๆ กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทฯ ต้องปฏิบัติดังนี้
- 2.1 ให้พนักงานระดับผู้จัดการแผนกขึ้นไปเป็นผู้แทนในการรับ
- 2.2 เมื่อรับสิ่งของแล้ว ให้นำสิ่งของพร้อมแบบรายงานการให้/รับของขวัญ หรือผลประโยชน์อื่นใด ไปยังฝ่ายแผนกทรัพยากรบุคคลทันที
- 2.3 แผนกทรัพยากรบุคคลจะดำเนินการลงบันทึกการรับของขวัญหรือผลประโยชน์อื่นใด และรับผิดชอบในการรวบรวมสิ่งของดังกล่าว เพื่อบริจาคให้บุคคลหรือหน่วยงานภายนอกเพื่อการกุศลหรือสาธารณประโยชน์
- อนุญาตให้กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน รับของชำร่วยที่มูลค่าไม่เกิน 500 บาท เช่นปฏิทิน พวงกุญแจ ปากกา สมุดบันทึกและของชำร่วยที่มีตราสัญลักษณ์ขององค์กร โดยให้พนักงานระดับผู้จัดการแผนกขึ้นไปเป็นผู้แทนในการรับ จากนั้นให้นำสิ่งของพร้อมแบบรายงานการให้/รับของขวัญ หรือประโยชน์อื่นใดไปยังแผนกทรัพยากรบุคคล เพื่อพิจารณาและดำเนินการแจกจ่ายให้แก่กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน ตามความเหมาะสม
- กรณีที่บริษัทฯได้รับรางวัล ของที่ระลึก หรือสิ่งของใดๆ จากการประกวดแข่งขัน เช่นการทำสัญญากับพันธมิตรทางธุรกิจ การได้รับรางวัลยกย่องชมเชยผลงานของบริษัทฯ การได้รับรางวัลการประกวดนโยบายงดรับของขวัญในช่วงเทศกาลปีใหม่ บริษัทฯสามารถรับสิ่งของนั้นในนามขององค์กรได้ โดยมอบหมายให้พนักงานระดับผู้จัดการแผนกขึ้นไปเป็นผู้แทนในการรับ ทั้งนี้สิ่งของดังกล่าวจะถือเป็นทรัพย์สินของบริษัทฯ
แนวปฏิบัติการเลี้ยงรับรองและการบริการต้อนรับ
กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทฯสามารถเลี้ยงรับรองให้บริการต้อนรับแก่คู่ค้า ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอก รวมถึงตัวแทน และ/หรือผู้จัดจำหน่าย หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัทฯ ได้โดยต้องเข้าเงื่อนไข ดังต่อไปนี้
- การเลี้ยงรับรองและการบริการต้อนรับ ต้องเป็นการใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการดำเนินธุรกิจ เช่นการเลี้ยงรับรองในรูปแบบอาหารและเครื่องดื่ม
- การเลี้ยงรับรองและการบริการต้อนรับ ต้องเป็นการกระทำในนามบริษัทฯเท่านั้นไม่ใช่ในนามของกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทฯ
- การเลี้ยงรับรอง และการบริการต้อนรับ ต้องมีมูลค่าที่เหมาะสม และถูกต้องตามสถานการณ์ เช่นการเลี้ยงรับรองในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทฯ การเลี้ยงรับรองในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบของบริษัทฯ ทั้งนี้กรณีที่บริษัทฯอยู่ระหว่างการประกวดราคาควรงดการเลี้ยงรับรอง และงดการบริการต้อนรับกับเจ้าหน้าที่รัฐ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
- การเลี้ยงรับรองและการบริการต้อนรับ ต้องไม่เป็นการเลี้ยงรับรอง หรือบริการต้อนรับในสถานที่ที่ไม่เหมาะสม
- การเลี้ยงรับรองและการบริการต้อนรับ ต้องไม่มีเจตนาร้าย หรือเป็นการกระทำเพื่อครอบงำ ชักนำ หรือตอบแทนบุคคลใดเพื่อเข้าไปเกี่ยวข้อง หรือให้เพื่อได้มาซึ่งความได้เปรียบผ่านการกระทำที่ไม่เหมาะสม หรือเพื่อให้ได้มาเพื่อผลประโยชน์
- การเลี้ยงรับรองและการบริการต้อนรับ ต้องจัดทำบันทึกแบบรายงานการให้/รับของขวัญหรือประโยชน์อื่นใด ต้องได้รับการขออนุมัติเบิกจ่าย และได้รับอนุมัติจากผู้มีอำนาจอนุมัติของบริษัทฯเท่านั้น
แนวปฏิบัติการบริจาคเพื่อการกุศล
กรรมการ ผู้บริหารและพนักงานของบริษัทฯ ต้องปฏิบัติด้วยความระมัดระวัง ดังต่อไปนี้
- การใช้เงินหรือทรัพย์สินของบริษัทฯ ในการบริจาคเพื่อการกุศล ต้องกระทำในนามบริษัทฯเท่านั้น
- การบริจาคเพื่อการกุศล ต้องเป็นการบริจาคให้มูลนิธิ องค์กรสาธารณะกุศล วัด โรงพยาบาล โรงเรียน มหาวิทยาลัย สถานพยาบาล หรือองค์กรเพื่อประโยชน์ต่อสังคม
- การบริจาคเพื่อการกุศล ต้องเป็นไปอย่างโปร่งใส และถูกต้องตามกฎหมาย โดยต้องมั่นใจว่าไม่ได้ถูกนำไปใช้เพื่อเป็นข้ออ้างในการให้และรับสินบน
- การขออนุมัติบริจาคเพื่อการกุศล ให้แผนกทรัพยากรบุคคลมีหน้าที่รับเรื่องจากผู้ขอบริจาค และตรวจสอบเอกสารต่าง จากมูลนิธิ องค์กรสาธารณะกุศล และหน่วยงานของรัฐ ดังนี้
- 4.1 หนังสือขอรับบริจาค ระบุรายการ จำนวน และวัตถุประสงค์
- 4.2 ภาพถ่าย แปลน แบบ สิ่งปลูกสร้างของสถานที่ขอรับบริจาค
- 4.3 เอกสารการจัดตั้งองค์กรที่ขอรับบริจาค ( ถ้ามี )
- 4.4 ตรวจสอบจำนวนสินค้า จำนวนเงินที่ขอรับบริจาคเป็นไปตามเหตุผล ข้อเท็จจริง ของโครงการที่รับบริจาค และนำรายงาน และขออนุมัติต่อผู้ที่มีอำนาจของบริษัทฯ
- 4.5 เมื่อได้รับการอนุมัติบริจาคเพื่อการกุศล จากผู้มีอำนาจอนุมัติของบริษัทฯ ให้แผนกทรัพยากรบุคคลประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งมอบทรัพย์สินให้กับผู้ขอรับบริจาค และในการส่งมอบทรัพย์สิน ให้ทำการส่งมอบพร้อมถ่ายภาพ กรณีที่ไม่ได้รับอนุมัติการบริจาคเพื่อการกุศลจากผู้มีอำนาจอนุมัติของบริษัทฯ ให้แผนกทรัพยากรบุคคลแจ้งเหตุผลให้กับผู้ขอรับบริจาคทราบต่อไป
- 4.6 เอกสารประกอบการบริจาค ให้แผนกทรัพยากรบุคคล ส่งเอกสารการบริจาคทั้งหมดให้แผนกบัญชีเก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการตรวจสอบจากกรมสรรพากร ได้แก่
- 4.6.1 หนังสือขอรับบริจาค
- 4.6.2 ภาพถ่าย แปลน แบบ สิ่งปลูกสร้างของสถานที่ขอรับบริจาค
- 4.6.3 เอกสารจัดตั้งองค์กรที่ขอรับบริจาค ( ถ้ามี )
- 4.6.4 หนังสือขอบคุณ หรือใบอนุโมทนาบัตร หรือใบเสร็จรับเงิน โดยให้ระบุชื่อ-ที่อยู่ ของผู้รับบริจาค รายการและจำนวนเงิน ลงชื่อผู้มีอำนาจอย่างถูกต้องเพื่อให้ถือเป็นรายจ่ายของบริษัทฯได้ตามประมวลรัษฎากร
- ให้แผนกทรัพยากรบุคคลตรวจสอบภายหลังการบริจาคเพื่อการกุศล ว่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ขอมาหรือไม่ เพื่อเป็นข้อมูลในการบริจาคครั้งต่อไป
- หากพบว่ามีรายการใดผิดปรกติ หรือมีการปฏิบัติที่ส่อไปในทางทุจริต ให้รายงานต่อกรรมการผู้จัดการทราบทันที
- หากตรวจสอบพบว่า พนักงานคนหนึ่งคนใด หรือกลุ่มบุคคลใดเจตนาทุจริตในการนำเงินสด / ทรัพย์สิน / สินค้า / วัสดุ ไปบริจาคเพื่อการกุศล หรือหากตรวจสอบแล้วพบว่าการบริจาคมีการกระทำที่ส่อไปในทางทุจริตคอร์รัปชัน ทำให้บริษัทฯได้รับความเสียหาย พนักงานหรือกลุ่มบุคคลนั้นต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด และจะถูกพิจารณาเรื่องวินัย และบทลงโทษทางวินัยอย่างร้ายแรงตามระเบียบของบริษัทฯ
แนวปฏิบัติการให้เงินสนับสนุน
กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทฯต้องปฏิบัติด้วยความระมัดระวัง ดังต่อไปนี้
- การให้เงินสนับสนุนนั้นต้องมั่นใจว่าไม่ได้ถูกนำไปใช้เพื่อเป็นข้ออ้างในการให้ และรับสินบน
- กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทฯ ต้องไม่เป็นตัวกลางในการเสนอเงิน ทรัพย์สิน สิ่งของ หรือ ประโยชน์อื่นใดกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัทฯ รวมถึงหน่วยงานราชการเพื่อแลกกับสิทธิพิเศษที่ไม่ควรได้ หรือทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐละเว้นการปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับ และข้อปฏิบัติตามกฎหมาย ที่กำหนดไว้
- การติดต่อกับหน่วยงานราชการจะต้องเป็นไปอย่างโปร่งใส และต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และห้ามให้รับสินบนในการดำเนินธุรกิจทุกชนิด
- การให้เงินสนับสนุนนั้นต้องพิสูจน์ได้ว่า ผู้ขอเงินสนับสนุนได้ทำกิจกรรมตามโครงการดังกล่าวจริง และเป็นการดำเนินการเพื่อสนับสนุนให้วัตถุประสงค์ของโครงการประสบผลสำเร็จ เพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ ธุรกิจ ตราสินค้าบริษัทฯ หรือเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างแท้จริง
- การใช้เงิน หรือทรัพย์สินของบริษัทฯเพื่อสนับสนุนโครงการ ต้องระบุชื่อในนามบริษัทฯเท่านั้น โดยการให้เงินสนับสนุนต้องมีวัตถุประสงค์เพื่อธุรกิจ ให้ภาพลักษณ์และชื่อเสียงที่ดีของบริษัทฯ ทั้งนี้การเบิกจ่ายต้องระบุ วัตถุประสงค์ที่ชัดเจนมีหลักฐานที่ตรวจสอบได้และดำเนินการผ่านขั้นตอนตามระเบียบของบริษัทฯ
- ให้ผู้ขอเงินสนับสนุน ขออนุมัติจากผู้มีอำนาจอนุมัติของบริษัทฯ โดยระบุชื่อผู้รับเงินสนับสนุนรายละเอียดและวัตถุประสงค์ของการสนับสนุน พร้อมแนบเอกสารประกอบ ดังนี้
- 6.1 หนังสือแจ้งความประสงค์การขอเงินสนับสนุน ระบุจำนวนเงิน หรือทรัพย์สินที่ขอสนับสนุน
- 6.2 เอกสารการจัดตั้งองค์กรของผู้รับการสนับสนุน เช่น หนังสือรับรองการจัดตั้งบริษัทฯ
- 6.3 หลักการ เหตุผล เป้าหมายและวัตถุประสงค์ของโครงการ
- 6.4 ภาพถ่ายกิจกรรมประชาสัมพันธ์ธุรกิจ ตราสินค้า ( ถ้ามี )
- การให้เงินสนับสนุน ต้องได้รับการขออนุมัติเบิกจ่าย และได้รับอนุมัติจากผู้มีอำนาจอนุมัติของบริษัทฯเท่านั้น
การจัดซื้อจัดจ้างและการจ้างบุคคลที่สาม
การใช้บุคคลที่สามเพื่อติดต่องานกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือหน่วยงานของรัฐจะต้องไม่เป็นการผ่องถ่ายการให้สินบนแก่บุคคลที่สาม
การจัดทำบัญชีและการจัดเก็บเอกสาร
- การจัดเก็บเอกสารทางบัญชีจะเก็บตามพ.ร.บ. บัญชีปีพ.ศ. 2543 และตามกฎหมายภาษีอากร โดยแยกเป็นหมวดหมู่ เก็บลงกล่อง โดยจัดเก็บไว้ที่สำนักงานใหญ่ (แผนกบัญชี)
- บริษัทฯมีการควบคุมการจัดเก็บเอกสารทางบัญชีอย่างเพียงพอ และปลอดภัยเพื่อใช้ในการตรวจสอบได้ทันที มีการควบคุมการเข้าถึงข้อมูลทางบัญชี และจัดเก็บไฟล์ข้อมูลสำรองอย่างปลอดภัย
- ระยะในการจัดเก็บเอกสารทางการเงินและหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเป็นเวลาอย่างน้อย 5 ปี แต่ไม่เกิน 7 ปี นับตั้งแต่ที่ได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีหรือวันทำรายงาน หรือวันปิดบัญชี แล้วแต่กรณี
- บริษัทฯ ได้บันทึกบัญชีและจัดทำงบการเงินเพียงชุดเดียว (บัญชีชุดเดียว) สอดคล้องกับแบบยื่นบัญชีตามมาตรา 69 แห่งประมวลรัษฎากร
ช่องทางการแจ้งเบาะแส
บริษัทฯมีช่องทางในการแจ้งเบาะแสเพื่อให้พนักงาน และผู้เกี่ยวข้องสามารถรายงาน กรณีพบเห็นการกระทำความผิด หรือพบสาเหตุสงสัยกรณีมีการทุจริตคอร์รัปชัน ในกระบวนการแจ้งเบาะแส ผู้แจ้งเบาะแส ควรระบุรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ รวมถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เช่น วันที่ เวลา สถานที่ บุคคลที่เกี่ยวข้อง และเอกสาร หรือ หลักฐานที่เกี่ยวข้อง(ถ้ามี) ผ่านช่องทางของบบริษัทฯ ดังนี้
- ส่งจดหมายทางไปรษณีย์
- ติดต่อ : บริษัท พีดีเอส ฟู๊ดส์ จำกัด
- ที่อยู่ : เลขที่ 13/4 หมู่ที่ 2 ตำบลคูขวาง อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี 12140
- จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) : whistleblower@pdsfoods.com info@pdsfoods.com
- Websiteของบริษัทฯ : http://www.pdsfoods.com
- สำนักงานคณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) : http://wbs.nacc.go.th/
มาตรการคุ้มครองผู้ร้องเรียน หรือผู้แจ้งเบาะแสการกระทำความผิด
พนักงาน ลูกค้า หรือบุคคลภายนอก หรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่แจ้งเรื่องร้องเรียน แจ้งเบาะแส โดยความสุจริตใจ จะได้รับการคุ้มครองที่เหมาะสม ดังนั้น
- บริษัทฯจะเก็บข้อมูล และตัวตนของผู้ที่ร้องเรียน ผู้แจ้งเบาะแส และผู้ถูกร้องเรียนเป็นความลับ
- หากกรณีที่บริษัทฯมีความจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูล บริษัทฯจะเปิดเผยเฉพาะข้อมูลที่จำเป็นเท่านั้นโดยคำนึงถึงความปลอดภัยและความเสียหายของผู้ร้องเรียน และผู้แจ้งเบาะแส
- หากการแจ้งเบาะแส ข้อร้องเรียน ให้ถ้อยคำ หรือข้อมูลใดๆที่พิสูจน์ได้ว่า กระทำโดยเจตนาไม่สุจริต กรณีเป็นพนักงานของบริษัทฯจะได้รับการลงโทษทางวินัย แต่หากเป็นบุคคลภายนอกที่ทำให้บริษัทฯได้รับความเสียหายทางบริษัทฯจะพิจารณาดำเนินคดีกับบุคคลนั้นๆ
กระบวนการพิจารณาข้อร้องเรียน
- บริษัทฯมีการแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาข้อร้องเรียน ประกอบด้วยผู้แทนจากฝ่ายบริหาร ฝ่ายกฎหมาย ฝ่ายตรวจสอบภายใน และฝ่ายทรัพยากรบุคคล โดยกำหนดบทบาทและหน้าที่ของคณะกรรมการพิจารณาข้อร้องเรียน ดังนี้
- ฝ่ายบริหาร มีหน้าที่ในการดูแล และสนับสนุนการดำเนินงานของคณะกรรมการพิจารณาข้อร้องเรียน และประสานงานกับฝ่ายต่างๆในองค์กร
- ฝ่ายกฎหมาย มีหน้าที่ในการตรวจสอบความถูกต้องและความเป็นธรรมของข้อร้องเรียน รวมถึงให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย
- ฝ่ายตรวจสอบภายใน มีหน้าที่ในการสืบสวน และรวบรวมหลักฐานที่เกี่ยวข้อง และฝ่ายทรัพยากรบุคคลมีหน้าที่ในการดูแล และให้การสนับสนุนพนักงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการจัดการข้อพิพาทที่เกิดขึ้น
- หลังจากได้รับข้อร้องเรียน ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบันทึกรับข้อร้องเรียนในระบบ และยืนยันการรับข้อร้องเรียนต่อผู้แจ้งเบาะแสภายใน 3 วันทำการ
- คณะกรรมการพิจารณาข้อร้องเรียนต้องเริ่มต้นพิจารณาข้อร้องเรียนและสืบสวนภายใน 10 วันทำการ นับจากวันที่ได้รับข้อร้องเรียน
- คณะกรรมการพิจารณาข้อร้องเรียนต้องดำเนินการสืบสวน และรวบรวมข้อมูลให้เสร็จสิ้นภายใน 30 วันทำการ นับจากวันที่ได้รับข้อร้องเรียน
- คณะกรรมการพิจารณาข้อร้องเรียนต้องแจ้งผลการพิจารณาให้ผู้ร้องเรียนทราบภายใน 14 วันทำการ นับจากวันที่เสร็จสิ้นการสืบสวน ทั้งนี้หากการสืบสวนต้องใช้เวลามากกว่าที่กำหนด คณะกรรมการพิจารณาข้อร้องเรียนต้องแจ้งให้ผู้ร้องเรียนทราบถึงความคืบหน้า และระยะเวลาที่คาดว่าการพิจารณาจะเสร็จสิ้น
การพิจารณาโทษ
กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทฯหากผู้ใดละเลย ละเว้น และเจตนาที่จะไม่ปฏิบัติตามนโยบายการต่อต้านการทุจริตและคอร์รัปชัน ถือว่ามีความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรงจะได้บทลงโทษตามข้อบังคับ หรือระเบียบของบริษัทฯที่ได้กำหนดไว้ หากความผิดนั้นเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย บริษัทฯจะพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง บริษัทฯกำหนดให้ผู้บริหารตลอดจนพนักงานใช้นโยบายต่อต้านการติดสินบนและการทุจริตคอร์รัปชันเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานไม่มีข้อยกเว้น
การทบทวนและการปรับปรุงแนวปฏิบัติสำหรับการต่อต้านการทุจริต
แนวปฏิบัติสำหรับการต่อต้านการติดสินบนและการทุจริตคอร์รัปชันฉบับนี้ อยู่ภายใต้การดูแลของคณะกรรมการต่อต้านการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญซึ่งกระทบ ติดสินบนและการทุจริตคอร์รัปชัน โดยบริษัทฯกำหนดให้มีการทบทวน และปรับปรุงคู่มือฉบับนี้เป็นประจำทุกปี หรือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญซึ่งกระทบต่อการบริหารความเสี่ยงและแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจว่าคู่มือเป็นไปตามข้อบังคับและกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เมื่อมีการปรับปรุงเอกสารการต่อต้านการติดสินบนและการทุจริตคอร์รัปชัน กรรมการผู้จัดการต้องมีการสื่อสารแนวทางปฏิบัติที่ได้รับการปรับปรุงดังกล่าวให้ทราบโดยทั่วกันทั้งบริษัทฯต่อการบริหารความเสี่ยงและแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจว่าคู่มือเป็นไปตามข้อบังคับและกฏหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง การปรับปรุงการต่อต้านติดสินบนและการทุจริตคอร์รัปชัน และกรรมการผู้จัดการและมีการสื่อสารแนวทางปฏิบัติ ที่ได้รับการปรับปรุงดังกล่าวให้ทราบโดยทั่วกันทั้งบริษัทฯ
ประกาศและมีผลบังคับใช้ วันที่ 5 มกราคม 2568
นางพันธิมา ฮันเดิล
กรรมการบริหาร บริษัท พีดีเอส ฟู๊ดส์ จำกัด
บริษัท พีดีเอส ฟู๊ดส์ จำกัด มีแนวทางในการดำเนินธุรกิจอย่างมีคุณธรรม ยึดมั่นในความรับผิดชอบต่อสังคม บริษัทได้จัดทำนโยบายการแจ้งเบาะแส (Whistle Blowing Policy) ขึ้น เพื่อเป็นช่องทางให้กรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน ลูกค้า บุคคลภายนอก ผู้มีส่วนได้เสียอื่น สามารถข้อร้องเรียนหรือแจ้งเบาะแสในกรณีที่เกิดการคอร์รัปชัน
การกระทำที่ผิดกฎหมาย ผิดกฎข้อบังคับ ผิดไปจากนโยบายของบริษัทและผิดต่อจรรยาบรรณและจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจ เพื่อช่วยปรับปรุงแก้ไขหรือดำเนินการให้เกิดความถูกต้อง เหมาะสม โปร่งใส และยุติธรรมต่อไป ทั้งข้อมูลของผู้แจ้งเบาะแสและเรื่องที่แจ้งจะถูกเก็บเป็นความลับ เพื่อป้องกันกรณีถูกละเมิดสิทธิ อีกทั้งบริษัทฯ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง/ต่อต้านคอร์รัปชัน/แจ้งเบาะแส เลขที่ PDS 001/2568 ลงวันที่ 1 มีนาคม 2568
แนวทางการปฏิบัติงาน
- พนักงาน ลูกค้า หรือบุคคลภายนอก ผู้มีส่วนได้เสียอื่น สามารถร้องเรียนและแจ้งเบาะแสการกระทำผิด สามารถยื่นเรื่องแจ้งพร้อมแนบข้อมูลที่น่าเชื่อถือโดยระบุรายละเอียดจะต้องเขียนเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อให้สามารถดำเนินการสอบสวนโดยจะแสดงตัวตนหรือไม่แสดงตัวตนก็ได้และส่งไปยังคณะกรรมการแจ้งเบาะแสได้ที่
- 1.1 แจ้งเบาะแสหรือข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการต่อต้านการติดสินบนและคอร์รัปชัน แจ้งผ่านคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง/ต่อต้านคอร์รัปชัน/แจ้งเบาะแส เบอร์โทรศัพท์: 02-5991356 , E-mail : whistleblower@pdsfoods.com
- 1.2 แจ้งผ่านทางเว็บไซต์ https://www.pdsfoods.com/corporate-governance/ โดยกรอกข้อมูลในฟอร์มด้านล่างนี้
ข้อมูลที่กรอกจะถูกเก็บเป็นความลับ
- 1.3 แจ้งผ่านทางไปรษณีย์ : คณะกรรมการบริหารความเสี่ยง/ต่อต้านคอร์รัปชัน/แจ้งเบาะแส
บริษัท พีดีเอส ฟู๊ดส์ จำกัด
เลขที่ 13/4 หมู่ที่ 2 ตำบลคูขวาง อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี 12140
หมายเหตุ กรณีผู้แจ้งเบาะแสแสดงตัวตนและให้ข้อมูลสำหรับติดต่อกลับ หากเรื่องที่แจ้งถึงประธานกรรมการหรือกรรมการผู้จัดการ และบริษัทฯ ไม่มีการติดต่อกลับ เกิน 30 วัน สามารถแจ้งเบาะแสเพิ่มได้อีก 1 ช่องทาง ได้แก่ - 1.4 แจ้งเบาะแสผ่านสำนักงานสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)
- บริษัทฯ จะดำเนินการอย่างยุติธรรมต่อผู้แจ้งเบาะแส หากเป็นพนักงานจะไม่มีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งหน้าที่ความรับผิดชอบ สถานที่ทำงาน พักงาน ข่มขู่ คุกคาม เลิกจ้าง หรือกระทำการอื่นใดที่เป็นการไม่ยุติธรรมต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมและเสมอภาคเพื่อแจ้งต่อผู้แจ้งเบาะแสไว้วางใจและเชื่อมั่นในกระบวนการตรวจสอบที่เป็นธรรม
- ผู้แจ้งเบาะแสที่ไม่ได้มีเจตนาสุจริตในการรายงานและ/หรือต่อมาพิสูจน์ได้ว่าเป็นการกระทำที่ตั้งใจให้เกิดความเสียหายหรือรายงานไม่ถูกต้อง หากเป็นพนักงานจะต้องได้รับโทษทางวินัยตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของบริษัทฯ หากเป็นลูกค้าหรือบุคคลภายนอก ซึ่งทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย บริษัทฯ จะพิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมาย
- บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลที่เกี่ยวกับรายงานไว้เป็นความลับ เช่น ชื่อผู้แจ้งเบาะแส หรือเนื้อหาสาระที่รายงานยกเว้นแต่มีการขอข้อมูลเพิ่มเติมหรือมีการร้องขอตามกฎหมาย บริษัทจะแจ้งให้ผู้แจ้งเบาะแสทราบก่อนที่จะเปิดเผยข้อมูล
- ผู้รับแจ้งเบาะแสจะพิจารณาเรื่องที่แจ้งว่าจำเป็นที่จะต้องสอบสวนหรือไม่ โดยคำนึกถึงหลักความยุติธรรมเที่ยงธรรมและสุจริตและหากมีสอบสวนจะแจ้งให้ผู้แจ้งทราบ หากแจ้งผู้เบาะแสไม่แสดงตัวตนผู้รับแจ้งเบาะแสไม่สามารถแจ้งการสอบสวนกลับไปยังผู้แจ้งเบาะแสได้
- ในกรณีที่จำเป็นต้องมีการสอบสวนหาข้อเท็จจริง ผู้รับแจ้งเบาะแสจะได้รายงานเบาะแสดังกล่าวต่อคณะกรรมการแจ้งเบาะแส อาจแต่งตั้งคณะทำงานสอบสวนในกรณีที่เห็นว่ามีความจำเป็น ทั้งนี้ผู้ถูกกล่าวหาต้องไม่อยู่ในคณะทำงานสอบสวนดังกล่าว ในกรณีที่ผู้ถูกกล่าวหาเป็นหนึ่งในคณะกรรมการแจ้งเบาะแส ผู้รับแจ้งจะต้องรายงานต่อประธานคณะกรรมการแจ้งเบาะแส
- คณะทำงานจะแจ้งผลการสอบสวนให้กับผู้แจ้งเบาะแสทราบ หากเป็นการแจ้งแบบไม่แสดงตัวตนจะทำให้ไม่สามารถแจ้งผลการสอบสวนไปยังผู้แจ้งเบาะแสได้
- ในกรณีที่ผลการสอบสวนได้รับการยืนยันว่าเป็นความจริง บริษัทจะกำหนดมาตรการเพื่อป้องกันและแก้ไขให้ทันท่วงทีและหากจำเป็นบริษัทจะดำเนินการลงโทษกับบุคคลที่เกี่ยวข้องหรือดำเนินการรายงานให้หน่วยงานทางการที่เกี่ยวข้องรับทราบ
- ข้อมูลทั้งหมดที่ได้รับจากผู้แจ้งเบาะแสและหลักฐานอื่น/สิ่งที่ตรวจพบ/ผลการสอบสวนจะเก็บไว้เป็นเอกสารความลับที่คณะกรรมการแจ้งเบาะแส
มาตรการคุ้มครองผู้ร้องเรียน หรือผู้แจ้งเบาะแสการกระทำผิด
พนักงาน ลูกค้า หรือบุคคลภายนอก หรือผู้มีส่วนได้เสีย ที่แจ้งเรื่องร้องเรียนแจ้งเบาะแส โดยความสุจริตใจ จะได้รับการคุ้มครองที่เหมาะสมดังนี้
- บริษัทฯ จะเก็บข้อมูลและตัวตนของผู้ที่ร้องเรียน ผู้แจ้งเบาะแส และผู้ถูกร้องเรียนเป็นความลับ
- หากกรณีที่บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูล บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น โดยคำนึงถึงความปลอดภัยและความเสียหายของผู้ร้องเรียนและผู้แจ้งเบาะแส
- หากการแจ้งเบาะแสข้อร้องเรียน ให้ถ้อยคำหรือให้ข้อมูลใด ๆ ที่พิสูจน์ได้ว่ากระทำโดยเจตนาไม่สุจริต กรณีเป็นพนักงานของบริษัท จะได้รับการลงโทษทางวินัยแต่หากเป็นบุคคลภายนอกที่ทำให้บริษัทฯ ได้รับความเสียหาย ทางบริษัทจะพิจารณาดำเนินคดีกับบุคคลนั้น ๆ
นโยบายและวิธีปฏิบัติการแจ้งเบาะแส (Whistle Blowing Policy) ฉบับนี้ ได้รับการอนุมัติจากประธานกรรมการเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2568 โดยมีผลบังคับใช้วันเดียวกัน
ประกาศ ณ วันที่ 1 มีนาคม 2568
นางพันธิมา ฮันเดิล
กรรมการบริหาร บริษัท พีดีเอส ฟู๊ดส์ จำกัด